ตัวอย่าง Modified Stochastic |
หลายคนส่วนใหญ่ว่ากันว่า Stochastic Oscillator เหมาะกับกราฟ Sideway หรือกราฟ Swing เพราะ Stochastic จะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน มีจุดเริ่มต้น และจุดจบ แต่ถ้ากราฟไม่จบตาม Stochastic ก็จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นเทรน (Trend) และไม่รู้ว่าจะ ขึ้น หรือ ลง (Up Trend & Down Trend) ทำให้ Stochastic ด้อยประสิทธิภาพทันทีเมื่อเจอเทรน นักเทรดส่วนใหญ่จะพยายามแก้เกมส์โดยการวิเคราะห์ Time Frame ที่กว้างขึ้น หรือใช้เครื่องมืออื่นช่วยวิเคราะห์ เพื่อกำหนดกรอบจุดซื้อ-ขาย
เพราะฉะนั้นจึงควรระวังหลังจากเก็งกำไรในช่วง Sideway จาก Stochastic ซึ่งอาจจะมีความแม่นยำปิดบวกทุกครั้ง และได้กำไรมาก แต่หากกราฟเปลี่ยนรูปแบบเป็นเทรนก็อาจจะเสียมากด้วยเช่นกัน จำไว้เสมอนะครับว่า...
"เมื่อ Stochastic จบ.. กราฟอาจไม่จบตาม"
รูป การตั้งค่าในโปรแกรม MT4 (Modified Stochastic) |
จากภาพตัวอย่างเป็นการ Modified Stochastic คือ การปรับกรอบ พร้อมว่างขอบเขตการใช้งาน Stochastic ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น Pattern ดังกล่าวเป็นการวาง Stochastic 2 ขอบเขต คือ Scope A เป็นการปรับแต่งค่าเพื่อใช้วิเคราะห์จุดซื้อ-ขาย ส่วน Scope B เป็นค่าเดิมของ Stochastic และแน่นอนเมื่อ 2 Scope เคลื่อนไหวไปในทางทิศเดียวกัน มันจะส่งผลให้การเคลื่อนไหวของกราฟมีความเที่ยงมากที่สุด อย่างมีนัยสัมพันธ์
จุด B เมื่อเราเปิดซื้อ (Buy) หลังจากได้กำไรจากจุด A แต่กราฟยังต้องใช้เวลาพักตัว แต่อยู่ใน Over Sold เขตขายมากไม่ ซึ่งพร้อมจะปรับตัวใหม่ และเมื่อถึงจุด C ทำให้เราตัดสินใจต่อว่าจะเปิดซื้อ (Buy) เพิ่มอีก 1 Order หรือจะปล่อยตามเทรน แล้วตั้ง Take Profit ไว้ 10-20 pip
จุด D ก็ทำเช่น่เดียวกัน
จุด E เป็นโซน Over Bought ซื้อมากไปพร้อมกลับตัว เป็นจุดขาย (Sell) เราต้องใช้วิจารณญาณจากเทรนเพื่อหาจุดปิด ถ้าพอใจที่จุด F อาจได้กำไรไม่มาก แต่ก็อยู่ในแผน หากยังไม่พอใจในกำไรดังกล่าวก็อาจจะเปิดทิ้งไว้ รอจนกว่าเส้น Stochastic ตัดกันในรอบใหม่อีกครั้ง แม้ว่าอาจจะมีความเสี่ยงจากกราฟกลับตัว แต่เมื่อถึงเวลาที่กฟราฟเคลื่อนไหวมาถูกทางในเวลาถัดไปก็อาจจะได้กำไรมาก
หมายเหตุ
Scope : A ผมได้วิเคราะห์ย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 6 เดือน อัตราความถูกต้อง 8 ใน 10
Scope : B เป็นขอบเขตพื้นฐาน มีทิศทางที่แม่นยำ แต่เกิดจุดผิดพลาดเมื่อเกิดเทรน
Editor by FXBUG.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น